logoedukey

ก้าวไกล กับนโยบายการศึกษาหน้าใหม่ 2566

15 พฤษภาคม 2566ทอฝัน กันทะมูลสาระความรู้ 1

แชร์บทความนี้

ก้าวไกล กับนโยบายการศึกษาหน้าใหม่ 2566

    เข้าใกล้การเลือกตั้งปี 2566 แล้ว มาดูนโยบายการศึกษาของพรรคที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้กัน โดยคุณพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ว่าพรรคมีการวางแผนนโยบายและมีแนวคิดอย่างการกับหน้าใหม่ของการศึกษาไทย

​“ที่ผ่านมาเราจะเห็นระบบการศึกษาไทย เราเรียกว่าแบบอำนาจนิยม ที่บอกว่าเด็กควรเป็นแบบนั้นแบบนี้ มากกว่าจะให้การศึกษาที่พยายามจะสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับผู้เรียนทุกคน มีเสรีภาพในการเรียนรู้ ในการพัฒนาตามศักยภาพและตัวตนตัวเอง”


6 นโยบายการศึกษา 

    คุณพริษฐ์ได้พูดถึงมุมมองของพรรคก้าวไกลที่มองว่าปัญหาของระบบการศึกษาไทยไม่สามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงได้เพราะขาด 2E อย่างแรกคือ Efficiency หรือประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาผู้เรียนเรียนหนัก แต่หลักสูตรไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอให้ผู้เรียนมีทักษะแข่งกับนานาชาติได้ และ E ที่สอง คือ Empathy หรือการเห็นอกเห็นใจ เพราะในโรงเรียนเป็นอำนาจนิยม ครูบางคนต้องทำงานนอกเหนืองานพัฒนาผู้เรียนไปทำเอกสารหรือเข้าเวร กฎระเบียบบางอย่างลิดรอนสิทธิ ไม่ว่าจะมีการบังคับซื้อชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ เป็นภาระผู้ปกครอง ตัดผมนักเรียนแหว่งให้เกิดความอับอาย ไม่ส่งเสริมให้เกิดระเบียบวินัยแต่เป็นการสร้างบาดแผลในใจ เพราะระบบการศึกษาไทยขาด 2E นี้จึงต้องแก้ด้วย 6 นโยบายดังต่อไปนี้

1. ให้การศึกษาฟรีจริง ๆ รวมไปถึงฟรีค่าอาหาร มีรถรับส่งนักเรียนจากบ้านไปกลับโรงเรียน 

2. โรงเรียนปลอดภัย ไร้อำนาจนิยม ให้โรงเรียนเป็นที่ปลอดภัยสำหรับผู้เรียนในด้านร่างกาย สภาพจิตใจและปลอดภัยจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน 

3. ยกระดับคุณภาพการศึกษา ออกแบบหลักสูตรใหม่ สร้างคนให้เท่าทันโลก ผู้เรียนได้เรียนสิ่งที่สามารถนำไปใช้จริงได้ ลดวิชาทางหลัก เพิ่มวิชาทางเลือก 

4. คืนครูให้ห้องเรียน ลดงานที่ไม่จำเป็นออก ให้ครูได้ทำหน้าที่พัฒนาผู้เรียนมากขึ้น ที่สำคัญนักเรียนประเมินคุณครูได้ ครูประเมินผอ.ได้ 

5. การส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน จัดทำคูปองเปิดโลก ให้เงินแก่ผู้เรียนทุกระดับชั้นไปใช้ในการเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่ไม่มีขีดจำกัด 

6. กระจายอำนาจทางการศึกษา ให้นักเรียน ครู และผู้ปกครองมีส่วนรวม มีตัวแทนนักเรียนมาจากนักเรียนเลือกเพื่อประชุมร่วมกับครูและผอ. จัดตั้งสภาเยาวชนเปิดพื้นที่ให้เสนอความเห็น ถามคำถามผู้บริหารประเทศ


เป้าหมายของพรรค 

    สามารถทำตามนโยบายการศึกษาได้ทั้งหมดใน 1 สมัย แบ่งได้เป็น 3 ช่วง โดยในช่วง 100 วันแรกทำได้ 2 ข้อ คือ การทำให้โรงเรียนปลอดภัย ไร้อำนาจนิยมและคืนครูสู่ห้องเรียน ช่วง 1 ปีแรก ทำเรื่องออกแบบหลักสูตรใหม่และทำคูปองเปิดโลกได้เลย และสุดท้ายช่วง 1 สมัยแรก ทำให้โรงเรียน เรียนฟรีจริงและการกระจายอำนาจทางการศึกษา ทำได้ด้วยการแก้กฎหมายหลายตัวและจัดสรรงบประมาณใหม่ 

    ทิศทางการศึกษาไทยต่อไปในอนาคตขึ้นอยู่กับใครเป็นผู้บริหารประเทศ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยเรื่องการเท่าทันโลก ทันสมัยไปพร้อมกับสะสาง แก้ปัญหาที่มีแต่ก่อน ทั้งเรื่องเวลาของครู 40% ไม่ถูกใช้เกี่ยวกับการพัฒนาผู้เรียน เรียนฟรีไม่จริง สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เกิดระบบการศึกษาไทยที่ดีขึ้นได้

​“การเลือกตั้งทุกครั้ง เป็นโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น อยากเชิญชวนทุกคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา ลองดูว่าแต่ละพรรคนำเสนอทิศทาง การพัฒนาการศึกษาแบบไหน แล้วให้ความไว้วางใจ แล้วลงคะแนนเสียงให้พรรคที่มีทิศทางตอบโจทย์สำหรับคุณและประเทศมากที่สุด”


#เลือกตั้ง66 #vote66 #นโยบายการศึกษา #edukey #พรรคก้าวไกล