Visualizer นักแปลภาษาผ่านภาพสตอรี่บอร์ด

    หลังจากทำงานในวงการภาพยนตร์ ตั้งแต่ผู้ช่วยผู้กำกับไปถึง Art Director ก็ได้คำตอบว่า ‘มีความสุขกับการวาดรูป’ จึงนิยามตัวเองได้ว่าเป็น Visualizer 

พูดคุยกับ ตุ่ม ทรงพล สังข์สวน หรือที่เป็นที่รู้จักในนาม ตุ่ม Storyboard เป็นนักวาดภาพสตอรี่บอร์ดหรือ Visualizer ประสบการณ์กว่า 30 ปี ทั้งงานโฆษณาและภาพยนตร์มาแล้วมากมาย เช่น ภาพยนตร์สตรีเหล็ก, 15ค่ำ เดือน11, แฟนฉัน , ภาพหวาด และแสงกระสือ

นิยามอาชีพ Visualizer 

    อาชีพนี้เป็นเหมือนล่ามภาษาภาพ ที่ทำงานร่วมกับผู้กำกับและทีมงาน ไม่ได้เป็นคนสร้างแต่เป็นคนแปล คนสื่อสาร ให้คนดูเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญของงานนี้

​“สิ่งที่ผมต้องทำคือต้องดึงจินตนาการจากหัวของ Director หรือว่าของ Creative ออกมา แล้วประมวลในหัวของผม แล้วเอาออกมาเป็นรูป”

    สรุปคือมีหน้าที่สร้างเครื่องมือสื่อสารให้กับผู้กำกับและคนอื่นที่เกี่ยวข้องในการนำเสนองาน และถ่ายทำ เล่าเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็น Presentation Board นอกจากนี้ยังเป็นการทำเพื่อ Production Board หรือการวาดก่อนถ่าย ซึ่งท้าทายอย่างมาก เพราะต้องทำความเข้าใจสิ่งที่กำลังจะวาด เป็นแนวไหน ต้องสื่ออารมณ์ออกมาอย่างไร พอรู้และเข้าใจแล้ว ทำออกมาเป็น Break ออกมาเป็นช็อต ตามที่ผู้กำกับต้องการ ซึ่งผลงานที่ดี คือต้องสื่อสารออกมาชัดเจน เข้าใจ ทำให้คนดูรู้สึกคล้อยตามได้

ขั้นตอนการทำงาน มากกว่าแค่วาดภาพของ Visualizer 

    ขั้นตอนการทำงานของคนวาดภาพสตอรี่บอร์ดเริ่มจากนัดคุยกับลูกค้า มีทั้งรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ ซึ่งการคิดค่าจ้าง รายได้ต้องนำส่วของต้นทุน ประสบการณ์ การเดินทาง ทักษะ คุณตุ่มแนะนำว่าต้องคิดส่วนนี้ด้วย เพราะใช้เวลาและเงินในการเพิ่มพูนประสบการณ์ด้วยเช่นกัน ต่อมาเป็นวิธีการรับงาน ตามคิว ไม่ทำให้คุณภาพงานตกลงเพื่อปริมาณงานที่มากขึ้น

​การแสดงออกถึงความสามารถ และการสื่อสารที่ชัดเจนก็สำคัญ การมีทัศนคติที่ดี มีวินัย เรื่องเล็ก ๆ ที่ควรใส่ใจ

    ขั้นแรกของการทำงานคือเริ่มต้นคุยรายละเอียดกับลูกค้า โดยเราต้องฟังให้มาก ถามจนออกมาเป็นภาพที่ตรงกัน รับข้อมูลที่ต้องการจากลูกค้า ทั้งภาพรวมของเรื่อง โครงสร้างงาน แล้วโฟกัสรายละเอียด โดยใช้ทักษะการถามคำถาม การสื่อสารให้เข้าใจตรงกันให้ได้ แม้ลูกค้าบางคนสื่อสารไม่เข้าใจก็ต้องถามจนได้ความชัดเจนมากที่สุด คุณตุ่มก็มีเทคนิคการทำงานมาแนะนำเช่นกัน คือการใช้ตัวช่วยเป็นโมเดลหุ่นร่างกายคน เพื่อถามถึงมุมของภาพ ความกว้าง ความแคบ เจาะจงส่วนไหนของร่างกายบ้าง เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพเดียวกัน

ความรู้พื้นฐานที่ควรมี 

    อย่างแรกสิ่งที่ควรมีคือทักษะการวาดรูป ไม่ว่าจะฝึกเองหรือเรียนมาก็ตาม อย่างที่สองคือต้องดูหนังให้เยอะ เรียนรู้และวิเคราะห์งานผ่านการดูหนัง สังเกตว่าในแต่ละประเภทของหนังต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ตัดต่อ มุมกล้องเป็นอย่างไร อัพเดตข้อมูลในวงการ รู้ว่ากล้องสมัยนี้มีเทคนิคสามารถทำได้มากแค่ไหนแล้ว เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อที่จะนำมาพัฒนางานตัวเองได้

    อีกอย่างที่ควรมีในการทำอาชีพนี้คือความชอบ ซึ่งสำหรับคุณตุ่มแล้วเกิดจากความชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ทำให้เข้าไปเรียนด้านวาดรูปอย่างจริงจัง และการหมั่นฝึกฝน

​“พรสวรรค์มันเป็นแค่ 5% แต่ที่เหลือพี่เชื่อว่ามันมาจากการฝึกฝนล้วน ๆ”

รายได้สำหรับนักวาดภาพสตอรี่บอร์ด 

    ในส่วนของรายได้แม้ไม่ได้รายได้เยอะเท่ากับงานสาย Creative แต่ก็สามารถเลี้ยงชีพได้ คิดเป็น 5,000-10,000 บาท ต่อวัน และสามารถทำให้ได้เยอะกว่านี้ได้ ตามความสามารถ สำหรับคนที่เลือกทำเป็น Freelance ต้องมีความขยันกว่าคนที่ทำเป็นงานประจำ 3 เท่า 

    การต่อยอดอาชีพสามารถทำจากภาพนิ่งให้ไปต่อเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ และปัจจุบันการรับงานต่างประเทศก็น่าสนใจและทำได้

ช่วงแนะนำน้อง ๆ

​“ผมว่าไม่ผิดที่จะลองนะครับ เริ่มจากอะไรเล็ก ๆ ก็ได้ คิดเอง เขียนเอง เริ่มต้นจากตรงนั้นเลย ไม่ต้องกลัวผิด ไม่ต้องกลัวถูก ทุกอย่างมันต้องมีก้าวแรกเสมอนะครับ”

    สำหรับใครที่กำลังค้นหาตัวเอง ให้เลือกทำอะไรจากเล็ก ๆ ก่อน แต่อย่าลืมความจริงจัง เพราะการทำอะไรเล่น ๆ ไม่มีทางทำสำเร็จแน่