logoedukey

Creative Producer ผู้สร้างและผู้คุมรายการ

24 พฤศจิกายน 2565Edukey Thailandแนะแนวอาชีพ 385

แชร์บทความนี้

Creative Producer ผู้สร้างและผู้คุมรายการ

เคยสงสัยมั้ยคะซิส ทำไมเราถึงชอบรายการนี้ ทำไมเราถึงอยากติดตามต่อเรื่อยๆ ดูแล้วได้ความรู้ สนุก ผ่อนคลาย รายการในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ล้วนเกิดขึ้นได้ด้วย Creative Producer บุคคลที่เป็นส่วนหนึ่งในการต่อตั้งรายการ คิด Content ต่าง ๆ วันนี้ชาว Edukey จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ตัวแม่ของวงการ Creative Producer ซึ่งก็คือ คุณทัตชญา ศุภธัญสถิต หรือพี่ฝน Creativeมือทอง นั้นเองค่าาาา กรู้วๆ

​​กว่าจะมาเป็น Monster Fon

ด้วยความที่พี่ฝนเป็นคนที่รู้ตัวเองเร็วมาก ว่ามีความชื่นชอบศิลปะตั้งแต่เด็ก จึงทำให้สนใจและ ชื่นชอบการเรียนศิลปะ แต่ทางบ้านไม่ได้สนับสนุน พี่ฝนจึงแอบไปสอบที่โรงเรียน อาชีวศึกษาเสาวภา แม้ว่าคนรอบตัวจะไม่เห็นด้วย แต่พี่ฝนก็มีความสุขที่ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ และ สังคมได้หล่อหลอมให้พี่ฝนเป็นคนที่มีความครีเอทีฟ 

กล้าคิด กล้าทำ กล้านอกกรอบ

จากนั้นพี่ฝนได้เข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยเพาะช่าง โดยเลือกเรียน สาขาพาณิชย์ศิลป์ เกี่ยวกับการวาดรูปเพื่อทำโฆษณา ออกแบบโฆษณา จากนั้นได้เรียนรู้ว่าตนเองไม่ชอบการทำงานที่ต้องใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ จึงกลับมาถามตัวเองว่า “ชอบอะไร” และได้พบคำตอบให้กับตัวเองว่า “ชอบฟังวิทยุ” อยากเป็นส่วนหนึ่งของวงการวิทยุ แต่ก็ไม่รู้ว่าวงการวิทยุเขาทำงานกันอย่างไร จึงลองสมัครงานที่ สถานีโทรทัศน์เคเบิลแชนแนลวีไทยแลนด์Channel V และได้เรียนรู้ว่า… 

  • การทำงานเป็นแบบไหน ? 
  • ตำแหน่งต่าง ๆ เรียกว่าอะไร ? 
  • อุปกรณ์ที่ใช้มีอะไรบ้าง 

การทำงานในโลกของความเป็นจริง เริ่มมีความกดดันและอุปสรรคมากมาย ที่ต้องใช้ทักษะแก้ไขมันไปให้ได้

​“โอกาสมันไม่ได้มีมาตลอด ไม่ใช่ทุกคนที่มายืนจุดนี้ได้ ฉะนั้นเมื่อเราได้รับโอกาสแล้ว เราก็ต้องให้มันออกมาดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และเรียนรู้ที่จะทำให้ดีกว่าเดิม”

เมื่อเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นจึงย้ายไปอยู่ที่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (GMM Grammy) ได้ร่วมงานกับพี่ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร ให้ลองมาทำรายการ เทย เที่ยว ไทย ในสมัยนั้นการทำงานกับพี่ป๋อมแป๋ม พี่ฝนต้องมีสมุด 1 เล่ม และเขียนทุกประโยคที่พิธีกรรายการพูด ถ้าเราไม่เขียน ทีมตัดต่อ เขาจะหาไม่เจอว่าตรงไหนใช้ ตรงไหนไม่ใช้ เมื่อเขียนเสร็จ ก็นำไปปริ้นต์ส่งให้ทีมตัดต่อ และนั่งตรวจงานกับทีมตัดต่อ ก่อนที่จะให้พี่ป๋อมแป๋มมาตรวจงานอีกที “ความโหดนรก ในวันนั้นสอนให้พี่ฝน คัดคำ คัดเนื้อเรื่องเป็น เล่าแล้วจับใจความสำคัญได้ รู้ว่าตัดต่ออย่างไรไม่น่าเบื่อ”

เมื่อความปังของการเรียนรู้ต้องไปต่อแบบหยุดไม่อยู่ พี่ฝนจึงลาออก เพื่อไปเรียนรู้การทำงานของรายการนั่งทอล์กกับคุณวุฒิธร มิลินทจินดา หรือพี่วู้ดดี้ แม้จะทำงานในเวลาอันสั้น แต่ก็สอนให้พี่ฝน มีทักษะว่าจะคุยข้อมูลกับคนอื่นอย่างไร สัมภาษณ์แบบไหน Setting อย่างไร จากนั้นจึงลองออกมาทำฟรีแลนซ์ ซึ่งรายการแรกที่ทำคือ Wrong Say Do คือรายการเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ กระแสตอบรับดีมาก เมื่อเราผ่านการทำงานร่วมกับคนอื่นมาเยอะ มันหล่อหลอมให้เราเป็นคนทำงานละเอียด ต้องรู้ทุกขั้นตอนของงาน ห้ามพลาด ถ้าพลาดแล้วมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง

​สิ่งที่ท้าทายสำหรับ Monster Fon

มันก็คือความกดดัน ที่ทุกคนเชื่อว่าร่วมงานกับเราแล้วมันต้องปัง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะปังหรือไม่ปัง สุดท้ายแล้วงานมันไม่ได้เกิดขึ้นด้วยคนหนึ่งคน แต่มันเกิดขึ้นได้เพราะพวกเราร่วมมือกัน และงานจะสนุกหรือไม่สนุก ให้เอาตัวเองไปอยู่ในจุดผู้ชม ถ้าเราดูแล้วมันสนุก แสดงว่า “มันก็เริ่ด ก็ปัง!!”

การทำงานของ Monster Fon ต้องทำอะไรบ้าง

  • Monster Fon ต้อง…ทำความเข้าใจ Concept ตีโจทย์ และต้องทำให้เขาเห็นภาพ 
  • Monster Fon ต้อง…เขียนสคริปต์ ลงรายละเอียดรายการ 
  • Monster Fon ต้อง…สรุปจับใจความสำคัญ 
  • Monster Fon ต้อง…สื่อสารเป็น อธิบายได้ 
  • Monster Fon ต้อง…ออกกอง 
  • Monster Fon ต้อง…บรีฟกับทีมตัดต่อ 
  • Monster Fon ต้อง…แก้ไข และ ส่งงาน

อยากเป็น Creative Producer Freelance ทำไงดี

​เราไม่เคยเชียร์ให้ทุกคนเป็นฟรีแลนซ์ ไปอยู่ในระบบก่อน ไปเรียนรู้ว่าการทำงานเป็นอย่างไร ไปเรียนรู้ก่อนว่ากว่าจะได้เงินเดือน มันยากง่ายอย่างไร

อยากทำงานเหมือน Monster Fon ทำไงดี?

เราตอบไม่ได้ว่าต้องเรียนอะไร ถ้าอยากลอง การเริ่มต้นที่ดี คือการฝึกงาน แต่ละที่ที่เราเลือกไป มันตอบได้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบ การฝึกงานมันช่วยได้

ถ้าไม่มีความฝัน ทำไงดี?

การไม่มีความฝัน ไม่เป็นไรเลย ไม่จำเป็นต้องหาความฝัน แค่หาว่าตัวเองชอบอะไร เช่น ถ้าบอกว่าชอบคุย ก็ไปหามาว่ามีงานอะไรที่ใช้ทักษะการคุยบ้าง ชอบกิน ก็หางานที่ใกล้เคียงที่เราจะได้กิน หาจากอะไรที่ชอบ

​“เดี๋ยวทุกอย่างจะทำให้ไปเจอเองว่าสุดท้ายแล้ว เราชอบอะไร มันอาจจะเป็นอาชีพอะไรไม่รู้ แต่เรามีความสุข มันก็แค่นั้นเลย”