logoedukey

“ ครูแนะแนว ” เชื้อเพลิงสำคัญ จุดไฟฝันให้ลุกโชน

30 กันยายน 2565Edukey Thailandเรื่องทั่วไป 79

แชร์บทความนี้

“ ครูแนะแนว ” เชื้อเพลิงสำคัญ จุดไฟฝันให้ลุกโชน
มัธยมต้น
“เรียนต่อสายไหนดีนะ ยังไม่รู้เลยว่าอยากจะเป็นอะไร”

มัธยมปลาย
“เข้าคณะอะไรดี ยังไม่รู้เลยว่าอยากทำงานอะไร”

มหาวิทยาลัย
“ไม่สนุกเลยที่เรียนอยู่ ย้ายคณะดีไหม แต่ก็เสียดายเวลาเหมือนกัน”
“จบไปจะทำอะไรดี ที่เรียนมาก็ไม่ได้ชอบเท่าไหร่”

ทำงาน
“ไม่ชอบเลย รู้สึกไม่อยากทำต่อแล้ว เปลี่ยนงานดีกว่า เอ๊ะ แต่ถ้าเปลี่ยนจะไปทำอะไรได้บ้างหละ”

    ความคิดมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงวัยที่ต่างกันแต่กลับมีจุดร่วมที่เหมือนกันคือ “ความไม่รู้” ไม่ว่าจะช่วงวัยไหนทั้งวัยเรียนหรือวัยทำงาน ความไม่รู้ยังคงเป็นอุปสรรคเสมอ แล้วทำไมความไม่รู้ถึงกลายมาเป็นอุปสรรคหละ เพราะในเมื่อพวกเรามีเวลาในการค้นหาตนเองมากมาย หรือปัญหาอาจจะอยู่ที่ระยะเวลามากมายเหล่านั้น ไม่ได้มีแรงผลักดัน หรือเชื้อเพลิงที่มากพอจะมาเติมไฟฝันให้มันชัดเจนขึ้นหรือเปล่า

    ในทุกระดับชั้นของการศึกษาสำหรับรั้วโรงเรียน มีบทบาทหน้าที่หนึ่งซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถลบคำว่า “ไม่รู้” และแก้ปัญหาการค้นพบตัวเองที่เกิดขึ้นได้ นั่นก็คือ “ครูแนะแนว” คุณครูผู้ที่ไม่ได้มีแค่ความรู้ แต่ยังมีความสามารถพิเศษในการเห็นอกเห็นใจ ใส่ใจ และเข้าถึงตัวตนของนักเรียน ผู้ที่เคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการเลือกทางเดินชีวิตของใครหลาย ๆ คน แต่ปัจจุบันนี้ครูแนะแนวกลับกลายบทบาทที่ถูกลดทอนหน้าที่ไป จนบางครั้งก็เกือบจะถูกหลงลืม


    “ครูแนะแนว” กับบทบาทที่ค่อย ๆ ถูกหลงลืม


    เคยไหม ที่เรามีเรื่องหนักใจ หรือ ไม่สบายใจ เวลาเราประสบปัญหาเหล่านี้ เรามักจะหาคนที่สามารถพูดด้วยได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง พ่อแม่ หรือแม้กระทั่ง คนที่ไม่รู้จัก ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการวิทยุ ช่องทางออนไลน์เป็นต้น แต่เวลาปรึกษาเนี่ยเราก็จะต้องเลือกคนที่เราไว้ใจได้ใช่ไหม เพราะไม่ใช่ทุกเรื่องจะเล่ากับทุกคนได้ และนี่แหละค่ะ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่เราควรมีครูแนะแนว เพราะเราสามารถปรึกษาทุกเรื่องกับคน ๆ เดียวได้ บางคนอาจจะคิดว่าเรียนอะไรก็สามารถเป็นครูแนะแนวได้ ก็แค่ให้คำปรึกษาเอง ใช่ แต่อย่าลืมว่า “คำปรึกษาที่ดีไม่ได้ออกมาจากทุกคน” 

    สำหรับครูแนะแนวแล้ว การให้คำปรึกษาคืองานหลัก แต่ปัจจุบัน ด้วยภาระหน้าที่หลาย ๆ อย่างที่ทางโรงเรียนได้จัดสรร ทำให้ครูแนะแนวหลาย ๆ คนต้องรับผิดชอบชิ้นงานนอกเหนือจากหน้าที่ของตน ตัวอย่างเช่น จัดการดูแลเรื่อง กยศ. เดินเอกสารต่าง ๆ มากมาย หรือสิ่งที่เราอาจจะเห็นกันบ่อย ๆ คือ ครูแนะแนวมักจะถูกมอบหมายให้เป็นแม่งานในการจัดกิจกรรมอยู่เสมอ คำมอบหมายที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่หลักนั้น บางครั้งก็ส่งผลให้มุมมองของนักเรียนที่มีต่อครูแนะแนวเปลี่ยนไป และทำให้คาบแนะแนวดูจะเป็นอะไรที่ไม่จำเป็นสำหรับพวกเขา

    ถ้าไม่อยาก “ไม่รู้” ลองหันไปหาครูแนะแนว นักเรียนหลายคนประสบปัญหาความไม่รู้จักตนเอง แต่ก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่าจะแก้มันยังไง พวกเขามักลืมไปว่าจริง ๆ แล้วโรงเรียนได้เตรียมการรับมือปัญหานี้ไว้ผ่านหน้าที่ของ “ครูแนะแนว” บุคคลที่มีห้องของตนเอง ห้องที่ประตูเปิดไว้เสมอ รอให้นักเรียนสักคนเข้ามาและเปิดใจพูดปัญหาของพวกเขา

    คาบแนะแนวอาจจะดูเป็นคาบแห่งการพักผ่อนสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่นี่คือพื้นที่ที่เปิดกว้างให้นักเรียนได้ค้นพบตนเอง และสามารถพัฒนาศักยภาพที่ตนมีเพื่อที่จะต่อยอดไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามหาวิทยาลัย หรือการทำงานก็ตาม ถ้าครูเปรียบเสมือเรือจ้าง ครูแนะแนวคงเปรียบเสมือนหางเสือ ที่คอยควบคุมทิศ เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารหลงในเส้นทางที่ตนไม่สามารถคาดเดาได้

    ในปัจจุบันนี้สังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการค้นหาตัวเอง ในยุคที่ความสับสนถาโถมเข้ามาสู่เหล่านักเรียนมากมาย คงจะดีไม่น้อยหากบทบาทของครูแนะแนวจะ ถูกผลักดันขึ้นมาให้เห็นถึงความสำคัญ เพื่อให้ครูแนะแนวได้แนะนำ ชี้เเนวทาง ผลักดันให้เด็ก ๆ ได้ค้นพบและได้ก้าวเดินต่อไปในทางที่เป็นตัวของตัวเอง ได้อย่างสดใสและมีความสุขมากที่สุด

    พวกเราชาว Edukey เป็นกำลังใจให้ครูแนะแนว และคุณครูทุกท่านในการผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพ และมีความสุขกับเส้นทางที่ตนเองเลือกต่อไปในอนาคต